Loading...

นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (“คณะ”) ขอแนะนำให้ท่านทำความเข้าใจนโยบายส่วนบุคคล (privacy policy) นี้ เนื่องจากนโยบายนี้อธิบายถึงวิธีการที่คณะปฏิบัติต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เช่น การเก็บรวบรวม การจัดเก็บรักษา การใช้ การเปิดเผย รวมถึงสิทธิต่าง ๆ ของท่าน เป็นต้น เพื่อให้ท่านได้รับทราบถึงนโยบายในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของคณะ คณะจึงประกาศนโยบายส่วนบุคคล ดังต่อไปนี้

ข้อมูลส่วนบุคคล

“ข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง ข้อมูลที่สามารถระบุตัวตนของท่าน ไม่ว่าในทางตรงหรือทางอ้อม

การเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลอย่างจำกัด

การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล คณะจะจัดเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้เพียงเท่าที่จำเป็น ภายใต้อำนาจหน้าที่และวัตถุประสงค์ในการให้บริการทางการศึกษา การจัดกิจกรรมทางการศึกษา หรือการให้บริการด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์อื่นใดภายใต้วัตถุประสงค์ของคณะเท่านั้น โดยคณะจะดำเนินการแจ้งให้เจ้าของข้อมูลรับรู้และให้ความยินยอม ตามแบบฟอร์มหรือวิธีการที่คณะกำหนด

คณะรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้เป็นไปตามสอดคล้องกับกฎหมาย เพื่อประโยชน์ในการบริหารจัดการ การให้บริการแก่เจ้าของข้อมูลเมื่อเข้าใช้บริการต่าง ๆ ที่จำเป็นของคณะหรือเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์สำหรับภาระหน้าที่ของคณะ เช่น การวิจัย การทำประโยชน์เพื่อพัฒนาสังคม การส่งเสริม ประยุกต์ พัฒนาวิชาการ และวิชาชีพ รวมไปถึงการบริการวิชาการ และการถ่ายทอดความรู้ หรือเพื่อวัตถุประสงค์อื่นใดที่ไม่ต้องห้ามตามกฎหมาย หรือเพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย หรือกฎ ระเบียบต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งยินยอมให้คณะส่ง โอน หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่ กลุ่มบุคคล/บุคคล ที่มีสัญญาอยู่กับคณะ รวมถึงหน่วยงานและองค์กรของรัฐที่มีอำนาจตามกฎหมาย

คณะจะเก็บรักษาข้อมูลดังกล่าวไว้ตามระยะเวลาเท่าที่จำเป็นสำหรับวัตถุประสงค์เหล่านี้

การขอความยินยอม เพื่อเก็บรวบรวม ประมวลผล และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

คณะจะขอความยินยอมจากท่าน เว้นแต่ด้วยเงื่อนไขดังต่อไปนี้

  1. กรณีที่กฎหมายกำหนด
  2. กรณีเพื่อประโยชน์ของท่าน และการขอความยินยอมไม่อาจกระทำได้ในเวลานั้น
  3. กรณีเพื่อประโยชน์เกี่ยวกับชีวิต สุขภาพ หรือความปลอดภัยของท่านและท่านอื่นๆ
  4. กรณีเพื่อประโยชน์แก่การสอบสวนของพนักงานสอบสวน หรือการพิจารณาพิพากษาคดีของศาล
  5. กรณีเพื่อประโยชน์ในการบริหารจัดการตามหลักธรรมาภิบาลของคณะ
  6. กรณีเพื่อประโยชน์ในการศึกษา วิจัย และการจัดทำสถิติ ภายใต้มาตรการคุ้มครองที่เหมาะสม

การรักษาความมั่นคงปลอดภัย

คณะตระหนักถึงความสำคัญของการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล จึงกำหนดให้มีมาตรการในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยและการทบทวนความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเหมาะสม และสอดคล้องกับการรักษาความลับของข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อป้องกันการสูญหาย การเข้าถึง ทำลาย ใช้ แปลง แก้ไขหรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่มีสิทธิหรือโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย โดยให้เป็นไปตามที่กำหนดในนโยบายและแนวปฏิบัติในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยด้านเทคโนโลยีสารสนเทศของมหาวิทยาลัย

คณะมีมาตรการการแจ้งเตือนเมื่อเกิดเหตุละเมิดความเป็นส่วนตัวของข้อมูลต่อสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและเจ้าของข้อมูลอย่างเหมาะสม

สิทธิเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

ท่านที่มีความประสงค์จะขอรับทราบข้อมูล เปลี่ยนแปลงข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง หรือลบทำลายข้อมูลของท่านตามสิทธิที่กฎหมายได้ระบุไว้ ท่านสามารถดำเนินการตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่คณะกำหนด โดยผ่านทางช่องทาง “ช่องทางการติดต่อคณะ” ที่ได้ระบุไว้

การเปลี่ยนแปลงนโยบายส่วนบุคคล

คณะอาจทบทวน แก้ไข นโยบายฉบับนี้เป็นครั้งคราวเพื่อให้สอดคล้องกับพระราชบัญญัติ หรือกฎหมายลำดับรอง ข้อบังคับ ประกาศของหน่วยงานราชการที่ออกมาใช้บังคับในภายหลัง โดยคณะจะประกาศให้ท่านทราบผ่านช่องทางนี้

ช่องทางการติดต่อคณะ

คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

ที่อยู่: เลขที่ 99 หมู่ 18 ถ.พหลโยธิน, ต.คลองหนึ่ง, อ.คลองหลวง, จ.ปทุมธานี, 12120

เบอร์โทรศัพท์: +66 (0) 25643001-9

โทรสาร: +66 (0) 25643010

อีเมล: cic@engr.tu.ac.th

แก้ไขล่าสุด 8 มีนาคม 2564


คำประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัว (Privacy Notice) สำหรับผู้ใช้งานระบบสารสนเทศของคณะวิศวกรรมศาสตร์
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

คำประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัว (“ประกาศ”) นี้จัดทำขึ้นเพื่อให้ท่านซึ่งเป็นผู้ใช้งานเว็บไซต์และระบบสารสนเทศคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (ซึ่งต่อไปในประกาศนี้ เรียกว่า “กิจกรรมการประมวลผล”) ได้ทราบและเข้าใจรูปแบบการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผย (“ประมวลผล”) ข้อมูลส่วนบุคคลที่คณะวิศวกรรมศาสตร์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (ซึ่งต่อไปในประกาศนี้ เรียกว่า “คณะ” หรือ “เรา”) ดำเนินการ ในฐานะผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล และ ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ในข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวมจากท่านเพื่อการดำเนินการภายใต้กิจกรรมการประมวลผลนี้

คณะได้พัฒนาเว็บไซต์และระบบสารสนเทศขึ้นเพื่ออำนวยความสะดวกในการจัดการศึกษาและให้บริการแก่นักศึกษาและบุคลากร รองรับการตรวจสอบข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน และการขอรับบริการต่าง ๆ ของคณะบนมาตรฐานความปลอดภัยขั้นสูงทั้งทางด้านซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์

ทั้งนี้ เราดำเนินการเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ดังนี้

  1. คำนิยาม

    “ข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทาให้สามารถระบุตัวตนบุคคลนั้นได้ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ

    “ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว” หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลตามที่ถูกบัญญัติไว้ในมาตรา ๒๖ แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 และให้รวมถึงข้อมูลอื่นใดที่กระทบต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในทานองเดียวกันตามที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลประกาศกาหนด

    “ผู้ใช้งานระบบสารสนเทศ” หมายถึง บุคคลที่เข้าดูข้อมูลและใช้งานระบบสารสนเทศของหน่วยงานในสังกัดของคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

  2. วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

    คณะดำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อการดำเนินงานตามอำนาจและหน้าที่ของมหาวิทยาลัยเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ตามมาตรา 7 แห่งพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ พ.ศ.2558 ซึ่งอ้างอิงไว้ในประกาศมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เรื่องนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2564 เช่น การสร้าง พัฒนา ประมวล และประยุกต์องค์ความรู้ทั้งมวล ดำเนินการให้มีการเรียนรู้ในองค์ความรู้ จัดการศึกษา เผยแพร่ความรู้ ส่งเสริมและพัฒนาวิชาการและวิชาชีพชั้นสูง ทำการวิจัย ให้บริการทางวิชาการและวิชาชีพแก่สังคม เป็นต้น

  3. ข้อมูลส่วนบุคคลที่เราเก็บรวบรวมและใช้

    เพื่อวัตถุประสงค์ตามที่ได้แจ้งในข้อ 2. เราเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านดังรายการต่อไปนี้

    1. แหล่งข้อมูลและรายการข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวม มีดังนี้
      1. เมื่อเข้าเว็บไซต์ของหน่วยงานในคณะ (Cookies)
      2. เมื่อมีการเช้าใช้งานระบบสารสนเทศของคณะ
      3. เมื่อมีการเข้าใช้งานบริการเครือข่ายอินเตอร์เน็ตของคณะ
      4. เมื่อให้ข้อมูลผ่านแบบฟอร์มใบสมัครหรือแบบฟอร์มอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับคณะ
      5. เมื่อบันทึกข้อมูลผ่านระบบสารสนเทศของคณะ
      6. เมื่อใช้บริการช่องทางติดต่อสอบถามของคณะ
    2. จุดประสงค์การใช้งานข้อมูลส่วนบุคคลและฐานกฎหมาย โปรดดูรายการสรุปในเอกสารแนบที่ 1
  4. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

    คณะอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อบุคคลหรือนิติบุคคลภายนอกมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ตามความยินยอมของท่าน และจะใช้ตามวัตถุประสงค์ที่แจ้งไว้ในประกาศฉบับนี้ดังต่อไปนี้

    1. คู่สัญญาที่มีการลงนามทำความร่วมมือกับคณะ เพื่อการจัดการศึกษา การวิจัย และการบริหารการดำเนินงาน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อดำเนินการยืนยันตัวตน หรือเพื่อการส่งข้อมูลตามที่กฎหมายกำหนด
    2. ที่ปรึกษาทางธุรกิจหรือทางวิชาชีพที่เป็นคู่สัญญากับคณะ
    3. หน่วยงานของภาครัฐหรือองค์กรใดที่มีอำนาจหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนด เช่น กรมสรรพากร กรมบังคับคดี เป็นต้น
    4. หน่วยงานของภาครัฐที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานของคณะ เช่น กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา สำนักงานประกันสังคม เป็นต้น
    5. เปิดเผยข้อมูลของท่านต่อสาธารณะ ได้แก่ ชื่อ นามสกุล สังกัด ชั้นปี และตำแหน่ง ผ่านช่องทางเว็บไซต์ของหน่วยงานในสังกัดคณะ สื่อสังคมออนไลน์ในสังกัดของคณะ บอร์ดประชาสัมพันธ์ สื่ออื่น ๆ เช่น หนังสือพิมพ์ วิทยุ โทรทัศน์ เพื่อวัตถุประสงค์ในการจัดการศึกษา การประชาสัมพันธ์ และการบริหารการดำเนินงานของคณะ
  5. สิทธิตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ของท่าน

    พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอยู่ในความควบคุมของท่านได้มากขึ้น โดยท่านสามารถใช้สิทธิตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 เมื่อบทบัญญัติในส่วนที่เกี่ยวกับสิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีผลใช้บังคับ ซึ่งมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

    1. สิทธิในการเข้าถึง รับสำเนาและขอให้เปิดเผยที่มาของข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่เราเก็บรวบรวมอยู่ เว้นแต่กรณีที่เรามีสิทธิปฏิเสธคำขอของท่านตามกฎหมายหรือคำสั่งศาล หรือกรณีที่คำขอของท่านจะมีผลกระทบที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อสิทธิและเสรีภาพของบุคคลอื่น
    2. สิทธิในการขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ไม่ถูกต้องหรือไม่ครบถ้วน เพื่อให้มีความถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
    3. สิทธิในการขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในกรณีหนึ่งกรณีใดดังต่อไปนี้
      1. เมื่ออยู่ในช่วงเวลาที่เราทำการตรวจสอบตามคำร้องขอของท่านให้แก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ถูกต้อง สมบูรณ์ และเป็นปัจจุบัน
      2. ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านถูกเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยโดยมิชอบด้วยกฎหมาย
      3. เมื่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่านหมดความจำเป็นในการเก็บรักษาไว้ตามวัตถุประสงค์เราได้แจ้งไว้ในการเก็บรวบรวม แต่ท่านประสงค์ให้เราเก็บรักษาข้อมูลนั้นต่อไปเพื่อประกอบการใช้สิทธิตามกฎหมายของท่าน
      4. เมื่ออยู่ในช่วงเวลาที่เรากำลังพิสูจน์ให้ท่านเห็นถึงเหตุอันชอบด้วยกฎหมายในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือตรวจสอบความจำเป็นในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อประโยชน์สาธารณะ อันเนื่องมาจากการที่ท่านได้ใช้สิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
    4. สิทธิในการคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เว้นแต่กรณีที่เราเหตุในการปฏิเสธคำขอของท่านโดยชอบด้วยกฎหมาย (เช่น เราสามารถแสดงให้เห็นว่าการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมีเหตุอันชอบด้วยกฎหมายยิ่งกว่า หรือเพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องทางกฎหมาย หรือเพื่อประโยชน์สาธารณะตามภารกิจของเรา)
  6. การส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศ

    เราอาจเปิดเผย ส่ง หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศเพื่อการจัดการศึกษาหรือการบริหารการดำเนินงานของคณะ โดยเราได้ดำเนินการตามหลักเกณฑ์การให้ความคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ส่งหรือโอนไปยังต่างประเทศที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลประกาศกำหนด เราอาจขอความยินยอมจากท่านสำหรับการถ่ายโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังต่างประเทศตามที่กฎหมายกำหนด เว้นแต่กรณีดังต่อไปนี้

    1. เป็นการปฏิบัติตามกฎหมายที่กำหนดให้เราจำเป็นต้องส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปต่างประเทศ
    2. เราได้แจ้งให้ท่านทราบและได้รับความยินยอมจากท่านในกรณีที่ประเทศปลายทางมีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่เพียงพอ ทั้งนี้เป็นไปตามรายชื่อประเทศที่คณะกรรมการคุ้มครองส่วนบุคคลประกาศกำหนด
    3. เพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของท่านหรือของบุคคลอื่น เมื่อท่านไม่สามารถให้ความยินยอมในขณะนั้นได้ หรือ เพื่อดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะที่สำคัญ
  7. ระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล

    เราเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เป็นระยะเวลา ไม่เกิน 2 ปี หรือเมื่อได้รับการสั่งการจากผู้มีอำนาจ นับจากเวลาสุดท้ายที่คณะได้มีการดำเนินการที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลของท่านในการจัดการศึกษาหรือการบริหารการดำเนินงานของคณะ ซึ่งมีเหตุเพื่อการดำเนินงานตามอำนาจและหน้าที่ของมหาวิทยาลัยเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ตามมาตรา7 แห่งพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ พ.ศ. 2558 ซึ่งอ้างอิงไว้ในประกาศมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เรื่องนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2564

    ทั้งนี้ เมื่อพ้นระยะเวลาดังกล่าวเราจะทำการลบ ทำลายเมื่อหมดความจำเป็นในการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลนั้น หรือ ทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไม่สามารถระบุตัวตน ได้ตามขั้นตอนมาตรฐาน เพื่อการใช้ประโยชน์ด้านอื่น เช่น การวิเคราะห์ทางสถิติ การปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงาน หรือประโยชน์สาธารณะที่สำคัญ

  8. การรักษาความมั่นคงปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคล

    เรามีมาตรการในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอย่างเหมาะสม ทั้งในเชิงเทคนิคและการบริหารจัดการ เพื่อป้องกันมิให้ข้อมูลสูญหาย หรือมีการเข้าถึง ทำลาย ใช้ เปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายและแนวปฏิบัติด้านความมั่นคงปลอดภัยสารสนเทศ (Information Security Policy) ของเรา

    นอกจากนี้ เราได้กำหนดให้มีนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลขึ้นโดยประกาศให้ทราบกันโดยทั่วทั้งองค์กร พร้อมแนวทางปฏิบัติเพื่อให้เกิดความมั่นคงปลอดภัยในการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล โดยธำรงไว้ซึ่งความเป็นความลับ (Confidentiality) ความถูกต้องครบถ้วน (Integrity) และสภาพพร้อมใช้งาน (Availability) ของข้อมูลส่วนบุคคล โดยเราได้จัดให้มีการทบทวนนโยบายดังกล่าวรวมถึงประกาศนี้ในระยะเวลาตามที่เหมาะสม

  9. การมีส่วนร่วมของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

    เราอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลก็ต่อเมื่อได้รับคำร้องขอจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ผู้สืบสิทธิ์ ทายาท ผู้แทนโดยชอบธรรม หรือผู้อนุบาลหรือผู้พิทักษ์ตามกฎหมาย โดยส่งคำร้องขอผ่านช่องทางการติดต่อคณะในท้ายประกาศ

    ในกรณีที่เจ้าของข้อมูล ผู้สืบสิทธิ์ ทายาท ผู้แทนโดยชอบธรรม หรือผู้พิทักษ์ตามกฎหมายมีการคัดค้านการจัดเก็บ ความถูกต้อง หรือการกระทำใด ๆ เช่น การแจ้งดำเนินการปรับปรุงแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคล เราจะดำเนินการบันทึกหลักฐานคำคัดค้านดังกล่าวไว้เป็นหลักฐานด้วย

    ทั้งนี้ เราอาจปฏิเสธสิทธิตามวรรคสองได้ตามกรณีที่มีกฎหมายกำหนด หรือในกรณีที่ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านถูกทำให้ไม่ปรากฏชื่อหรือสิ่งบอกลักษณะอันสามารถระบุตัวท่านได้

  10. ความรับผิดชอบของบุคคลซึ่งประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล

    เราได้กำหนดให้เจ้าหน้าที่เฉพาะผู้ที่มีอำนาจหน้าที่เกี่ยวข้องในการจัดเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของกิจกรรมการประมวลผลนี้เท่านั้นที่จะสามารถเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ โดยเราจะดำเนินการให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติตามประกาศนี้อย่างเคร่งครัด

  11. การเปลี่ยนแปลงแก้ไขคำประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัว

    ในการปรับปรุงหรือเปลี่ยนแปลงประกาศนี้ เราอาจพิจารณาแก้ไขเปลี่ยนแปลงตามที่เห็นสมควร และจะทำการแจ้งให้ท่านทราบผ่านช่องทาง https://engr.tu.ac.th/ โดยมีวันที่ของเวอร์ชั่นล่าสุดกำกับอยู่ตอนท้าย อย่างไรก็ดี เราขอแนะนำให้ท่านโปรดตรวจสอบเพื่อรับทราบประกาศฉบับใหม่อย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะก่อนที่ท่านจะเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลแก่เรา

    โดยในการเข้าใช้งานผลิตภัณฑ์หรือบริการภายใต้กิจกรรมการประมวลผลนี้ของท่าน ถือเป็นการรับทราบตามข้อตกลงในประกาศนี้ ทั้งนี้ โปรดหยุดการใช้งานหากท่านไม่เห็นด้วยกับข้อตกลงในประกาศฉบับนี้ หากท่านยังคงใช้งานต่อไปภายหลังจากที่ประกาศนี้มีการแก้ไขและนำขึ้นประกาศในช่องทางข้างต้นแล้ว จะถือว่าท่านได้รับทราบการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวแล้ว

  12. ช่องทางการติดต่อสอบถาม

    คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

    ที่อยู่: เลขที่ 99 หมู่ 18 ถ.พหลโยธิน, ต.คลองหนึ่ง, อ.คลองหลวง, จ.ปทุมธานี, 12120

    เบอร์โทรศัพท์: +66 (0) 25643001-9

    โทรสาร: +66 (0) 25643010

    อีเมล: cic@engr.tu.ac.th

แก้ไขล่าสุด 01 มิถุนายน 2565


คำประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวในการใช้กล้องวงจรปิด (CCTV Privacy Notice)

คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (ซึ่งต่อไปในประกาศนี้ เรียกว่า “คณะ” หรือ “เรา”) กำลังดำเนินการใช้กล้องวงจรปิด (CCTV) สำหรับการเฝ้าระวังสังเกตการณ์ในพื้นที่ภายในและรอบบริเวณกลุ่มอาคารและห้องปฏิบัติการและลานจอดรถยนต์ภายใต้การกำกับดูแลของคณะวิศวกรรมศาสตร์ (“พื้นที่”) ของเรา เพื่อการปกป้องชีวิต สุขภาพ และทรัพย์สิน ทั้งนี้ เราทำการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ปฏิบัติงานให้คณะ นักศึกษา นักวิจัย ลูกจ้าง ผู้รับเหมา ผู้มาติดต่อ หรือ บุคคลใด ๆ (ซึ่งต่อไปนี้จะเรียกรวมกันว่า “ท่าน”) ที่เข้ามายังพื้นที่ โดยผ่านการใช้งานอุปกรณ์กล้องวงจรปิดดังกล่าว

ประกาศความเป็นส่วนตัวในการใช้กล้องวงจรปิด (“ประกาศ”) ฉบับนี้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการดำเนินการเก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผย ซึ่งข้อมูลที่สามารถทำให้สามารถระบุตัวท่านได้ (“ข้อมูลส่วนบุคคล”) รวมทั้งสิทธิต่าง ๆ ของท่าน ดังนี้

  1. ฐานกฎหมายในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล

    เราดำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านภายใต้ฐานกฎหมายดังต่อไปนี้

    1. ความจำเป็นในการป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของท่านหรือบุคคลอื่น
    2. ความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของเราหรือบุคคลอื่น โดยประโยชน์ดังกล่าวมีความสำคัญไม่น้อยไปกว่าสิทธิขั้นพื้นฐานในข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
    3. ความจำเป็นในการปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ซึ่งควบคุมดูแลเกี่ยวกับความปลอดภัยและสภาพแวดล้อมในสถานที่ทำงาน และทรัพย์สินของเรา
  2. วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

    เราดำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้

    1. เพื่อการปกป้องสุขภาพและความปลอดภัยส่วนตัวของท่าน ซึ่งรวมไปถึงทรัพย์สินของท่าน
    2. เพื่อการปกป้องอาคาร สิ่งอำนวยความสะดวกและทรัพย์สินของเราจากความเสียหาย การขัดขวาง การทำลายซึ่งทรัพย์สินหรืออาชญากรรมอื่น
    3. เพื่อสนับสนุนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการบังคับใช้กฎหมายเพื่อการยับยั้ง ป้องกัน สืบค้น และ ดำเนินคดีทางกฎหมาย
    4. เพื่อการให้ความช่วยเหลือในกระบวนการระงับข้อพิพาทซึ่งเกิดขึ้นในระหว่างที่มีกระบวนการทางวินัยหรือกระบวนการร้องทุกข์
    5. เพื่อการให้ความช่วยเหลือในกระบวนการสอบสวน หรือกระบวนการเกี่ยวกับการส่งเรื่องร้องเรียน
    6. เพื่อการให้ความช่วยเหลือในกระบวนการริเริ่มหรือป้องกันการฟ้องร้องทางแพ่ง ซึ่งรวมไปถึงแต่ไม่จำกัดเพียงการดำเนินการทางกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการจ้างงาน
  3. ข้อมูลส่วนบุคคลที่เราเก็บรวบรวมและใช้

    ตามวัตถุประสงค์ตามที่ได้แจ้งในข้อ 2.เราทำการติดตั้งกล้องวงจรปิดในตำแหน่งที่มองเห็นได้ โดยจะจัดวางป้ายเตือนว่ามีการใช้งานกล้องวงจรปิด ณ ทางเข้าและทางออก รวมถึงพื้นที่ที่เราเห็นสมควรว่าเป็นจุดที่ต้องมีการเฝ้าระวัง เพื่อเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเมื่อท่านเข้ามายังพื้นที่ ดังต่อไปนี้

    รายการข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวม
    • ภาพนิ่ง
    • ภาพเคลื่อนไหว
    • เสียง
    • ภาพทรัพย์สินของท่าน เช่น พาหนะ กระเป๋า หมวก เครื่องแต่งกาย เป็นต้น

    ทั้งนี้ เราจะไม่ทำการติดตั้งกล้องวงจรปิดในพื้นที่ที่อาจล่วงละเมิดสิทธิขั้นพื้นฐานของท่านจนเกินสมควร ได้แก่ ห้องพัก ห้องน้ำ ห้องอาบน้ำ หรือสถานที่เพื่อใช้ในการพักผ่อนของผู้ปฏิบัติงาน

  4. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

    เราจะเก็บรักษาข้อมูลในกล้องวงจรปิดที่เกี่ยวกับท่านไว้เป็นความลับ และจะไม่ทำการเปิดเผย เว้นแต่ กรณีที่เรามีความจำเป็นเพื่อให้สามารถบรรลุวัตถุประสงค์ในการเฝ้าระวังสังเกตการณ์ตามที่ได้ระบุในประกาศฉบับนี้ เราอาจเปิดเผยข้อมูลในกล้องวงจรปิดแก่ประเภทของบุคคลหรือนิติบุคคลดังต่อไปนี้

    1. หน่วยงานที่มีอำนาจหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนด เพื่อช่วยเหลือ สนับสนุนในการบังคับใช้กฎหมาย หรือเพื่อการดำเนินการสืบสวน สอบสวน หรือการดำเนินคดีความต่าง ๆ
    2. ผู้ให้บริการซึ่งเป็นบุคคลภายนอก เพื่อความจำเป็นในการสร้างความมั่นใจในเรื่องการป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย สุขภาพ รวมทั้งทรัพย์สินของท่านหรือบุคคลอื่น
  5. สิทธิตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 ของท่าน

    พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอยู่ในความควบคุมของท่านได้มากขึ้น โดยท่านสามารถใช้สิทธิตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 เมื่อบทบัญญัติในส่วนที่เกี่ยวกับสิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีผลใช้บังคับ ซึ่งมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

    1. สิทธิในการเข้าถึง รับสำเนา และขอให้เปิดเผยที่มาของข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่เราเก็บรวบรวมอยู่ เว้นแต่กรณีที่เรามีสิทธิปฏิเสธคำขอของท่านตามกฎหมายหรือคำสั่งศาล หรือกรณีที่คำขอของท่านจะมีผลกระทบที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อสิทธิและเสรีภาพของบุคคลอื่น
    2. สิทธิในการขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ไม่ถูกต้องหรือไม่ครบถ้วน เพื่อให้มีความถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
    3. สิทธิในการขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในกรณีหนึ่งกรณีใด ดังต่อไปนี้
      1. เมื่ออยู่ในช่วงเวลาที่เราทำการตรวจสอบตามคำร้องขอของท่านให้แก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ถูกต้อง สมบูรณ์และเป็นปัจจุบัน
      2. ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านถูกเก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผยโดยมิชอบด้วยกฎหมาย
      3. เมื่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่านหมดความจำเป็นในการเก็บรักษาไว้ตามวัตถุประสงค์เราได้แจ้งไว้ในการเก็บรวบรวม แต่ท่านประสงค์ให้เราเก็บรักษาข้อมูลนั้นต่อไปเพื่อประกอบการใช้สิทธิตามกฎหมายของท่าน
      4. เมื่ออยู่ในช่วงเวลาที่เรากำลังพิสูจน์ให้ท่านเห็นถึงเหตุอันชอบด้วยกฎหมายในการเก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือตรวจสอบความจำเป็นในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อประโยชน์สาธารณะ อันเนื่องมาจากการที่ท่านได้ใช้สิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
    4. สิทธิในการคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เว้นแต่กรณีที่เราเหตุในการปฏิเสธคำขอของท่านโดยชอบด้วยกฎหมาย (เช่น เราสามารถแสดงให้เห็นว่าการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมีเหตุอันชอบด้วยกฎหมายยิ่งกว่า หรือเพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องทางกฎหมาย หรือเพื่อประโยชน์สาธารณะตามภารกิจของเรา)
  6. ระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล

    เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ของการเฝ้าระวังสังเกตโดยการใช้อุปกรณ์กล้องวงจรปิดตามที่ประกาศนี้กำหนด เราจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลในกล้องวงจรปิดที่เกี่ยวข้องกับท่าน เป็นระยะเวลาไม่เกิน 120 วัน โดยระยะเวลาดังกล่าวเป็นไปตามนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลจากกล้องวงจรปิด (CCTV Policy) ของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ทั้งนี้ เมื่อพ้นระยะเวลาดังกล่าวเราจะทำการ ลบ ทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวเจ้าของข้อมูลได้

  7. การรักษาความมั่นคงปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคล

    เรามีมาตรการในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอย่างเหมาะสม ทั้งในเชิงเทคนิคและการบริหารจัดการ เพื่อป้องกันมิให้ข้อมูลสูญหาย หรือมีการเข้าถึง ลบ ทำลาย ใช้ เปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายและแนวปฏิบัติด้านความมั่นคงปลอดภัยสารสนเทศ (Information Security Policy) ของเรา

    นอกจากนี้ เราได้กำหนดให้มีนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลขึ้นโดยประกาศให้ทราบกันโดยทั่วทั้งองค์กร พร้อมแนวทางปฏิบัติเพื่อให้เกิดความมั่นคงปลอดภัยในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล โดยธำรงไว้ซึ่งความเป็นความลับ (Confidentiality) ความถูกต้องครบถ้วน (Integrity) และสภาพพร้อมใช้งาน (Availability) ของข้อมูลส่วนบุคคล โดยเราได้จัดให้มีการทบทวนนโยบายดังกล่าวรวมถึงประกาศนี้ในระยะเวลาตามที่เหมาะสม

  8. ความรับผิดชอบของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล

    เราได้กำหนดให้เจ้าหน้าที่เฉพาะผู้ที่มีอำนาจหน้าที่เกี่ยวข้องในการจัดเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของกิจกรรมการประมวลผลนี้เท่านั้นที่จะสามารถเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ โดยเราจะดำเนินการให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติตามประกาศนี้อย่างเคร่งครัด

  9. การเปลี่ยนแปลงแก้ไขคำประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัว

    ในการปรับปรุงหรือเปลี่ยนแปลงประกาศนี้ เราอาจพิจารณาแก้ไขเปลี่ยนแปลงตามที่เห็นสมควร และจะทำการแจ้งให้ท่านทราบผ่านช่องทาง https://engr.tu.ac.th/ โดยมีวันที่ของเวอร์ชั่นล่าสุดกำกับอยู่ตอนท้าย อย่างไรก็ดี เราขอแนะนำให้ท่านโปรดตรวจสอบเพื่อรับทราบประกาศฉบับใหม่อย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะก่อนที่ท่านจะเข้ามาในพื้นที่ของเรา

    การเข้ามาในพื้นที่ของท่าน ถือเป็นการรับทราบตามข้อตกลงในประกาศนี้ ทั้งนี้ โปรดระงับการเข้าพื้นที่ หากท่านไม่เห็นด้วยกับข้อตกลงในประกาศฉบับนี้ หากท่านยังคงเข้ามาในพื้นที่ต่อไปภายหลังจากที่ประกาศนี้มีการแก้ไขและนำขึ้นประกาศในช่องทางข้างต้นแล้ว จะถือว่าท่านได้รับทราบการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวแล้ว

  10. การติดต่อสอบถาม

    คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

    ที่อยู่: เลขที่ 99 หมู่ 18 ถ.พหลโยธิน, ต.คลองหนึ่ง, อ.คลองหลวง, จ.ปทุมธานี, 12120

    เบอร์โทรศัพท์: +66 (0) 25643001-9

    โทรสาร: +66 (0) 25643010

    อีเมล: cic@engr.tu.ac.th

แก้ไขล่าสุด 01 มิถุนายน 2565