ประวัติคณะวิศวกรรมศาสตร์
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้มีดำริที่จะจัดการเรียนการสอนทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2511 ดังมีหลักฐานปรากฏในข้อเสนอแผนดำเนินการโครงการพัฒนามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์มีนาคม 2521 ความว่า “25 ธันวาคม 2511 สภาการศึกษามีหนังสือ ที่ สร.0411 (1) แจ้งว่าได้ส่งเรื่องไปยังมูลนิธิฟอร์ดเกี่ยวกับมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ขอความช่วยเหลือในการจัดสอนทางวิทยาศาสตร์และวิศวกรรมศาสตร์ชั้นปริญญาตรี และช่วยในการวางแผนก่อสร้างมหาวิทยาลัยที่รังสิตและวังหน้า” หลังจากปี 2511 ก็ได้มีการพัฒนาที่ดินมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ที่รังสิตมาโดยลำดับ และได้มีการจัดส่งอาจารย์ไปศึกษาต่อต่างประเทศทางด้านวิศวกรรมศาสตร์ แต่ในช่วง 14 ตุลาคม 2516 และ 6 ตุลาคม 2519 มหาวิทยาลัยประสบภาวะวิกฤตการณ์ ทางด้านการเมือง จึงทำให้โครงการต่าง ๆ ต้องชงักงันไป
ในปี พ.ศ. 2531 สมัยศาสตราจารย์เกริกเกียรติ พิพัฒน์เสรีธรรม เป็นอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ได้เสนอโครงการจัดตั้ง คณะวิศวกรรมศาสตร์ ในช่วงการปรับแผนพัฒนาการศึกษา ระยะที่ 6 โดยผ่านความเห็นชอบของที่ประชุมสภามหาวิทยาลัย เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2531 และจัดส่งให้ทบวงมหาวิทยาลัยพิจารณา เมื่อวันที่ 8 กันยายน 2531 ขณะเดียวกันได้มีการประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 13 กันยายน 2531 พิจารณาเรื่องการจัดตั้งมหาวิทยาลัยในภูมิภาค ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีได้มีมติอนุมัติให้ยกฐานะวิทยาลัยในหลายจังหวัดขึ้นมาเป็นมหาวิทยาลัยและได้มีมติ “ให้ทบวงมหาวิทยาลัยรับไปพิจารณาเสนอจัดตั้ง คณะวิศวกรรมศาสตร์ และคณะแพทยศาสตร์ ขึ้นในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาโดยด่วน”
เมื่อข้อเสนอโครงการจัดตั้งคณะวิศวกรรมศาสตร์ได้ผ่านการพิจารณาของคณะอนุกรรมการปรับแผนพัฒนาการศึกษา ระยะที่ 6 ของทบวงมหาวิทยาลัย เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2531 และได้ผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการทบวงมหาวิทยาลัย ในเดือนกรกฎาคม 2532 แล้ว ทบวงมหาวิทยาลัยได้เสนอร่างพระราชกฤษฎีกา จัดตั้งคณะวิศวกรรมศาสตร์ไปยังสำนักงาน เลขาธิการคณะรัฐมนตรี เพื่อพิจารณาตามขั้นตอนต่าง ๆ โดยต้องให้สำนักงบประมาณ และสำนักงาน ก.พ. พิจารณาเสนอความเห็น เพื่อประกอบการพิจารณาของคณะรัฐมนตรี ซึ่งในที่สุดที่ประชุมคณะรัฐมนตรีได้มีมติรับหลักการเมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2532 และได้ส่งร่างพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งคณะฯ ให้สำนักงาน คณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา จากนั้นสำนักเลขาธิการ คณะรัฐมนตรีได้ส่งไปยังสำนักราชเลขาธิการเพื่อโปรดเกล้าลงพระปรมาภิไธย ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชฯ ได้ทรงลงพระปรมาภิไธยในพระราชกฤษฎีกาจัดตั้ง คณะวิศวกรรมศาสตร์ เมื่อวันเสาร์ที่ 19 สิงหาคม 2532 มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จึงถือว่าวันเสาร์ที่ 19 สิงหาคม 2532 เป็นวันจัดตั้งคณะวิศวกรรมศาสตร์
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จึงได้เริ่มดำเนินการเพื่อพัฒนามหาวิทยาลัยในด้านการจัดการเรียนการสอนทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีวิศวกรรมศาสตร์ในช่วงการปรับแผนพัฒนาการศึกษา ฉบับที่ 6 พ.ศ. 2533 - 2534 (2 ปีสุดท้ายของแผน) เพื่อให้มีส่วนในการผลิตวิศวกรสาขาต่าง ๆ ออกไปรับใช้สังคมและประเทศชาติ อันเป็นการตอบสนองนโยบายของรัฐในการผลิตบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถในสาขาวิชาวิศวกรรมศาสตร์ ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชฯ ทรงลงพระปรมาภิไธยในพระราชกฤษฎีกาจัดตั้ง คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เมื่อวันเสาร์ที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2532
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จึงกำหนดให้วันนี้เป็นวันสถาปนาคณะวิศวกรรมศาสตร์ โดยเป็น คณะที่ 10 ของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และเป็นคณะวิศวกรรมศาสตร์แห่งที่ 9 ในมหาวิทยาลัยของรัฐโดยเริ่มมีการจัดการเรียนการสอนตั้งแต่ ปีการศึกษา 2533 เป็นต้นมา
การดำเนินงาน | |
---|---|
2533 | เปิดรับนักศึกษา 2 สาขาวิชา คือ สาขาวิชาวิศวกรรมไฟฟ้า และสาขาวิชาวิศวกรรมอุตสาหการ |
2534 | เปิดรับนักศึกษา สาขาวิชาวิศวกรรมโยธา |
2536 | เปิดรับนักศึกษา สาขาวิชาวิศวกรรมเคมี |
2538 | เปิดรับนักศึกษา สาขาวิชาวิศวกรรมเครื่องกล |
2539 | เปิดรับนักศึกษาโครงการหลักสูตรวิศวกรรมศาสตรบัณฑิตสองสถาบัน โดยความร่วมมือกับมหาวิทยาลัย แห่งน็อตติ้งแฮมประเทศอังกฤษ 5 สาขาวิชา ได้แก่ สาขาวิชาวิศวกรรมไฟฟ้า สาขาวิชาวิศวกรรมอุตสาหการ สาขาวิชาวิศวกรรมโยธา สาขาวิชาวิศวกรรมเคมี และสาขาวิชาวิศวกรรมเครื่องกล |
2540 | เปิดรับนักศึกษาหลักสูตรปริญญาโทสาขาวิชาวิศวกรรมอุตสาหการ และสาขาวิชาวิศวกรรมโยธา |
2545 | เปิดรับนักศึกษาหลักสูตรวิศวกรรมศาสตรบัณฑิต ภาคภาษาอังกฤษ 5 สาขาวิชา ได้แก่ สาขาวิชาวิศวกรรมไฟฟ้า สาขาวิชาวิศวกรรมอุตสาหการ สาขาวิชาวิศวกรรมโยธา สาขาวิชาวิศวกรรมเคมี และสาขาวิชาวิศวกรรมเครื่องกล เปิดรับนักศึกษา หลักสูตรปริญญาโท 2 สาขาวิชา ได้แก่ สาขาวิชาวิศวกรรมไฟฟ้า และสาขาวิชาเคมี เปิดรับนักศึกษา หลักสูตรปริญญาเอก สาขาวิชาวิศวกรรมโยธา เปิดหลักสูตรวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ |
2549 | เปิดรับนักศึกษาโครงการหลักสูตรวิศวกรรมศาสตรบัณฑิตสองสถาบัน โดยความร่วมมือกับมหาวิทยาลัย แห่งนิวเซาท์เวลล์ ประเทศออสเตรเลีย 5 สาขาวิชา ได้แก่ สาขาวิชาวิศวกรรมไฟฟ้า สาขาวิชาวิศวกรรม อุตสาหการ สาขาวิชาวิศวกรรมโยธา สาขาวิชาวิศวกรรมเคมี และสาขาวิชาวิศวกรรมเครื่องกล |
2551 | เปิดหลักสูตรปริญญาตรี-โท วิศวกรรมศาสตร์และการจัดการเชิงธุรกิจ (Engineering and Business Management) และหลักสูตรปริญญาโท-เอก วิศวกรรมทางการแพทย์ (Medical Engineering) |
2554 | เปิดหลักสูตรควบวิศวกรรมศาสตรบัณฑิตและวิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาวิศวกรรมไฟฟ้าอุตสาหการ (Integrated Program of Bachelor and Master of Engineering in Industrial Electrical Engineering) |
2556 | เปิดหลักสูตรวิศวกรรมศาสตร์บัณฑิต สาขาวิศวกรรมยานยนต์ (หลักสูตรภาษาอังกฤษ) (Automotive Engineering Program) |
2557 | เปิดหลักสูตรวิศวกรรมศาสตร์บัณฑิต สาขาวิศวกรรมซอฟต์แวร์ (Bachelor of Engineering Program in Software Engineering) |
2561 | เปิดหลักสูตรวิศวกรรมศาสตร์บัณฑิต สาขาวิศวกรรมเทคโนโลยียานยนต์ (Bachelor of Engineering Program in Vehicle Technology Engineering) |
คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์พัทยา ได้ขยายการเรียนการสอน และให้บริการศูนย์ฝึกอบรม สัมมนาในภูมิภาค มีนโยบายที่จะพัฒนาศูนย์การศึกษาภูมิภาคอย่างจริงจัง เพื่อขยายโอกาสทางการศึกษา และนำความเป็นเลิศทางวิชาการ วิธีคิดและวิถีของความเป็นธรรมศาสตร์ไปสู่ชุมชนภาคภาคตะวันออกอย่างมีประสิทธิภาพ ในปี พ.ศ. 2557 คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์พัทยา ได้รับเงินสนับสนุนจาก บริษัท สยามกลการ จำกัด ในการสร้างอาคารปฏิบัติการวิศวกรรมยานยนต์ เป็นจำนวนเงิน 68 ล้านบาท และอาคารสนับสนุนการเรียนการสอน (หอพัก) เป็นจำนวนเงิน 30 ล้านบาท อีกทั้งบริษัทสยามกลการยังได้บริจาคเครื่องมือ อุปกรณ์ที่ต้องใช้ในอาคารปฏิบัติการวิศวกรรมยานยนต์ และทุนการศึกษาให้แก่นักศึกษาหลักสูตรวิศวกรรมยานยนต์ที่มีผลการเรียนดี
คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต
Thammasat School of Engineering (TSE)
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ลงพระปรมาภิไธยในพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งคณะวิศวกรรมศาสตร์ เมื่อวันเสาร์ที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2532 มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จึงกำหนดให้วันดังกล่าวเป็นวันสถาปนาคณะวิศวกรรมศาสตร์ โดยเป็นคณะที่ 10 ของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เป็นคณะวิศวกรรมศาสตร์แห่งที่ 9 ในมหาวิทยาลัยของรัฐ และเริ่มจัดการเรียนการสอนตั้งแต่ปีการศึกษา 2533 เป็นต้นมา โดยมีหน้าที่จัดการศึกษา ทำการวิจัย นำผลงานวิจัยไปใช้ประโยชน์ และให้บริการทางวิชาการ
คณบดี | ศ.ดร.สัญญา มิตรเอม |
สีประจำคณะ | สีเลือดหมู |
เว็บไซต์ | www.engr.tu.ac.th |
ที่อยู่ |
|
ความพร้อมทางด้านบุคลากรคณะวิศวกรรมศาสตร์
คณะวิศวกรรมศาสตร์มีจำนวนบุคลากรสายวิชาการจำนวน 118 คน สายสนับสนุนวิชาการจำนวน 124 คน โดยคุณวุฒิและตำแหน่งทางวิชาการบุคลากรสายวิชาการ ระดับปริญญาเอก จำนวน 109 คน คิดเป็นร้อยละ 89 แบ่งเป็น ตำแหน่งอาจารย์ 24 คน ตำแหน่งผู้ช่วยศาสตราจารย์ 47 คน ตำแหน่งรองศาสตราจารย์ 41 คน และตำแหน่งศาสตราจารย์ 5 คน
ตำแหน่งทางวิชาการ | คุณวุฒิการศึกษา | รวม | |
ปริญญาโท | ปริญญาเอก | ||
อาจารย์ | 8 | 16 | 24 |
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ | 6 | 41 | 47 |
รองศาสตราจารย์ | - | 41 | 41 |
ศาสตราจารย์ | - | 5 | 5 |
รวม | 14 | 104 | 118 |
ความพร้อมทางด้านหลักสูตร
โครงการปกติ
จัดการเรียนการสอนเป็นภาษาไทย 4 ปี ที่ศูนย์รังสิต เปิดสอน 5 ภาควิชา ดังนี้
- ภาควิชาวิศวกรรมไฟฟ้าและคอมพิวเตอร์
- ภาควิชาวิศวกรรมเครื่องกล
- ภาควิชาวิศวกรรมเคมี
- ภาควิชาวิศวกรรมโยธา
- ภาควิชาวิศวกรรมอุตสาหการ
ข้อมูลเพิ่มเติม คลิกที่นี่
โครงการพิเศษ หลักสูตรภาษาอังกฤษ (TEP-TEPE)
2.1 โครงการหลักสูตรวิศวกรรมศาสตรบัณฑิตสองสถาบัน (TEP: Twinning Engineering Programmes)
หลักสูตรภาษาอังกฤษ คณะวิศวกรรมศาสตร์ได้เริ่มเปิดทำการเรียนการสอนในหลักสูตร Twinning Engineering Programmes (TEP) เป็นหลักสูตรที่เกิดขึ้นจากความร่วมมือทางวิชาการระหว่างคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และ The University of Nottingham ประเทศอังกฤษในปี พ.ศ. 2539 โดยนักศึกษาที่ศึกษาในหลักสูตรดังกล่าวจะต้องเรียนชั้นปีที่ 1-2 ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และเดินทางไปศึกษาต่อในประเทศอังกฤษชั้นปีที่ 3-4 ภายหลังจากสำเร็จการศึกษาจะได้รับวุฒิการศึกษาวิศวกรรมศาตรบัณฑิต (วศ.บ.) จากมหาวิทยาลัย ธรรมศาสตร์และ Bachelor of Engineering จาก University of Nottingham
ต่อมาในภายหลังคือในปีพ.ศ. 2549 คณะวิศวกรรมศาสตร์ได้ขยายความร่วมมือในการจัดการศึกษาในลักษณะเดียวกันกับ UNSW Sydney ประเทศออสเตรเลีย และล่าสุดในปี 2560 ได้ขยายความร่วมมือกับ KU Leuven ประเทศเบลเยี่ยม กล่าวคือนักศึกษาที่ต้องการศึกษาในหลักสูตร TEP สามารถเลือกเรียนในมหาวิทยาลัยในต่างประเทศที่ต้องการได้ ซึ่งก่อนเดินทางไปศึกษาต่อในชั้นปีที่ 3 และ 4 นักศึกษาจำเป็นจะต้องได้รับการประเมินผลการเรียนและทักษะการสื่อสารภาษาต่างประเทศอีกครั้งหนึ่งตามเกณฑ์ที่แต่ละมหาวิทยาลัยกำหนด
The University of Nottingham, UK
The University of Nottingham หรือ NU เป็นมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงระดับโลก ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1798 และได้รับการจัดอันดับที่ 82 ใน QS World ranking (2017-2018) นักศึกษาที่จะเดินทางไปศึกษาต่อ 2 ปีหลัง เมื่อจบการศึกษาระดับชั้นปีที่ 2 จะต้องมีเกรดเฉลี่ยอย่างน้อย 2.40 และมีผลการสอบ IELTS ไม่ต่ำกว่า 6.0 แต่ละทักษะต้องไม่ต่ำกว่า 5.5 นอกจากนี้ นักศึกษาทุกคนจะได้รับส่วนลดค่าเทอม 25% และถ้านักศึกษาเรียนดีติดอันดับ 1-4 ของชั้นปี จะได้รับส่วนลดค่าเทอมเพิ่มอีก 15%
UNSW Sydney, Australia
UNSW Sydney เป็นมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงติดอันดับ 1 ใน 8 ของมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดในประเทศออสเตรเลีย และได้รับการจัดอันดับที่ 45 ใน QS World ranking (2017-2018) นักศึกษาที่จะเดินทางไปศึกษาต่อ 2 ปีหลัง เมื่อจบการศึกษาระดับชั้นปีที่ 2 จะต้องมีเกรดเฉลี่ยอย่างน้อย 2.50 และมีผลการสอบ IELTS ไม่ต่ำกว่า 6.5 แต่ละทักษะต้องได้ไม่ต่ำกว่า 6.0
Ku Leuven, Belgium
เป็นมหาวิทยาลัยที่ใหญ่ที่สุดและมีการจัดอันดับสูงสุดในเบลเยี่ยมรวมทั้งมหาวิทยาลัยที่เก่าแก่และมีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งในยุโรป และได้รับการจัดอันดับที่ 81 ใน QS World ranking (2017-2018) รับเฉพาะสาขาเครื่องกลจากหลักสูตร TEP เท่านั้น เมื่อจบการศึกษาระดับชั้นปีที่ 2 จะต้องมีเกรดเฉลี่ยอย่างน้อย 2.50 และมีผลการสอบ IELTS ไม่ต่ำกว่า 6.5 แต่ละทักษะต้องได้ไม่ต่ำกว่า 5.5
2.2 โครงการหลักสูตรวิศวกรรมศาสตรบัณฑิตภาคภาษาอังกฤษ คณะวิศวกรรมศาสตร์ TEPE (Thammasat English Programme of Engineering)
ในปีพ.ศ. 2545 คณะวิศวกรรมศาสตร์ ได้เปิดทำการเรียนการสอนหลักสูตรวิศวกรรมศาสตรบัณฑิต หลักสูตรภาษาอังกฤษ ซึ่งเป็นหลักสูตร 4 ปี จัดการเรียนการสอนที่คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ในสาขาวิชาวิศวกรรมเคมี วิศวกรรมโยธา วิศวกรรมไฟฟ้า วิศวกรรมอุตสาหการ วิศวกรรมเครื่องกล และวิศวกรรมยานยนต์ คล้ายคลึงกับหลักสูตร TEP แต่เป็นหลักสูตรที่มีค่าใช้จ่ายในการเรียนที่ต่ำกว่า อีกทั้งหลักสูตร TEPE ได้มีการขยายความร่วมมือสนับสนุนและส่งเสริมในการแลกเปลี่ยนนักศึกษา (Exchange Programmes) กับมหาวิทยาลัยในต่างประเทศ นอกจากนี้หลักสูตร TEPE ยังมีทุนการศึกษาให้จำนวน 30 ทุน แบ่งออกเป็นทุนเต็มจำนวน 20 ทุน และทุนบางส่วน 10 ทุน
โครงการหลักสูตรนวัตกรรมทางวิศวกรรมศาสตร์ (TU-PINE) จัดการเรียนการสอนเป็นภาษาไทย
ทางคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้เล็งเห็นถึงความจำเป็นในการบูรณาการองค์ความรู้ที่หลากหลายเข้ามาในหลักสูตรทางวิศวกรรมศาสตร์ จึงได้มีการจัดตั้งโครงการหลักสูตรนวัตกรรมทางวิศวกรรมศาสตร์ (Programme of Innovative Engineering) หรือ TU-PINE เพื่อพัฒนาและบริหารหลักสูตรเชิงบูรณาการ โดยมีการจัดการเรียนการสอนเป็นภาษาไทยในระดับปริญญาตรี ใน 4 สาขาวิชาดังนี้
สาขาวิชาวิศวกรรมโยธาและการบริหารการก่อสร้าง (EBM) จัดการเรียนการสอน 4 ปี ที่ มธ.รังสิต
หลักสูตรโดยความร่วมมือระหว่างคณะวิศวกรรมศาสตร์ และคณะพานิชยศาสตร์และการบัญชี เป็นหลักสูตรที่เพิ่มโอกาสและทางเลือกใหม่ให้กับนักศึกษาที่มีความสนใจด้านวิศวกรรมศาสตร์ ควบคู่กับด้านบริหารจัดการ เพื่อเป็นการตอบสนองความต้องการของภาคธุรกิจอุตสาหกรรม
สาขาวิชาวิศวกรรมไฟฟ้าอุตสาหการ (iPEN-iEE) จัดการเรียนการสอน 4 ปี ที่ มธ.รังสิต
หลักสูตรแรกในประเทศไทยที่ผสมผสานองค์ความรู้ทางด้านวิศวกรรมไฟฟ้า และวิศวกรรมอุตสาหการ เพื่อตอบสนองความต้องการในภาคอุตสาหกรรมได้อย่างลงตัว สร้างบุคลากรในด้านวิศวกรรมที่มีองค์ความรู้ทั้งวิศวกรรมไฟฟ้าและวิศวกรรม อุตสาหการควบคู่ไปด้วยกัน
สาขาวิชาวิศวกรรมซอฟต์แวร์ (Soft-en) ปี 1 เรียนที่ มธ.รังสิต + ปี 2-4 เรียน ที่ มธ.พัทยา
เป็นหลักสูตรที่มุ่งเน้นการผลิตวิศวกรซอฟต์แวร์คุณภาพสูง ที่มีความสามารถทั้งในเชิงทฤษฎีและปฏิบัติ มีความสามารถด้านการสื่อสารและประสานงานในทุกขั้นตอนของกระบวนการผลิต โดยรูปแบบการเรียนการสอนจะเน้นเชิงปฏิบัติการเพื่อให้นักศึกษามีทักษะในการออกแบบ พัฒนาและตรวจสอบคุณภาพซอฟต์แวร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้รายวิชาในหลักสูตรยังมีการเสริมแนวคิดเชิงธุรกิจเพื่อให้บัณฑิตที่จบการศึกษาไปมีมุมมองในการสร้างธุรกิจทางซอฟต์แวร์ต่อไป
สาขาวิชาวิศวกรรมเทคโนโลยียานยนต์ (V-TECH) จัดการเรียนการสอน 4 ปี ที่ มธ.พัทยา
หนึ่งในหลักสูตรพันธุ์ใหม่ของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ที่เน้นการเรียนรู้เชิงบูรณาการกับการทำงานและประสบการณ์จากการปฏิบัติงานจริงในสถานประกอบการ เพื่อตอบสนองความต้องการแรงงานในกลุ่มภาคอุตสาหกรรมการผลิตยานยนต์สมัยใหม่ ซึ่งเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมเป้าหมายใหม่ (New S-curve) ของประเทศไทย อีกทั้งยังได้ไปฝึกงานจริงกับบริษัทผู้ผลิตและประกอบ ยานยนต์ เช่น สยามกลการ โตโยต้า ไทรอัมพ์ ฯลฯ
ความพร้อมด้านงานวิจัย
คณะวิศวกรรมศาสตร์ มีศูนย์ความเป็นเลิศทางวิศวกรรมศาสตร์ 3 ศูนย์ (Excellent Center) ได้แก่
- ศูนย์แห่งความเป็นเลิศทางวิชาการด้านการใช้ประโยชน์จากพลังงานแม่เหล็กไฟฟ้าในงานวิศวกรรม
- ศูนย์แห่งความเป็นเลิศทางวิชาการด้านการออกแบบและพัฒนาต้นแบบทางวิศวกรรมอย่างสร้างสรรค์
- ศูนย์แห่งความเป็นเลิศทางวิชาการด้านตัวเร่งปฏิกิริยาเคมีและการดูดซับด้านสิ่งแวดล้อม